ความงาม
เลือกครีมกันแดดยังไง? ให้เหมาะกับผิว ปกป้องผิวใสได้ยาวนาน
ผิวสวย ไม่กลัวแดด! เลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิว ปกป้องผิวจากแสงแดด รังสีอันตราย UVA UVB ไม่ทำให้ผิวคล้ำเสีย ลดการเกิดริ้วรอย เนื้อครีมบางเบา แต่คุณสมบัติไม่เบา

Key Takeaway

  • ครีมกันแดดแบบ Chemical มีเนื้อบางเบาและเกลี่ยง่าย เหมาะกับคนที่ชอบความสบายผิวแต่เสี่ยงระคายผิวสูงกว่า ส่วน Physical กันแดดด้วยการสะท้อนรังสี UV เหมาะกับผิวบอบบางและเด็ก แต่เนื้อครีมค่อนข้างหนาและอาจทิ้งคราบขาว ส่วน Hybrid ผสมข้อดีของทั้งสองแบบ ปกป้องได้ทั้งดูดซับและสะท้อนรังสี UV พร้อมเนื้อบางเบาและลดการระคายผิว เหมาะกับทุกสภาพผิว
  • การทากันแดดช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีที่เป็นสาเหตุของผิวไหม้แดด ริ้วรอยก่อนวัย จุดด่างดำ และเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง การใช้กันแดดอย่างสม่ำเสมอช่วยรักษาคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดีในระยะยาว
  • วิธีเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิว ทั้งสำหรับคนผิวแห้ง ผิวมัน ผิวเป็นสิวง่าย หรือผิวบอบบาง ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีค่า SPF 50 ขึ้นไป ป้องกันทั้ง UVA/UVB ปกป้องผิวจากรังสีอินฟราเรดและแสงสีฟ้า มีส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ และเลือกสูตรที่กันน้ำหรือเหมาะกับกิจกรรมของแต่ละคน
  • วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง ควรทาก่อนออกแดดประมาณ 15 - 30 นาที ใช้ปริมาณ 2 ข้อนิ้วมือ แต้ม 5 จุดบนใบหน้าแล้วเกลี่ยให้ทั่ว หากมีเหงื่อหรือออกแดดนาน ควรทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง และควรเลี่ยงแดดช่วง 10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น

 

ผิวสวย ไม่กลัวแดด! เลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิว ปกป้องผิวจากแสงแดด รังสีอันตราย UVA UVB ไม่ทำให้ผิวคล้ำเสีย ลดการเกิดริ้วรอย เนื้อครีมบางเบา แต่คุณสมบัติไม่เบา

เลือกกันแดดแบบไหนดี? Chemical, Physical หรือ Hybrid1

ถ้าไม่รู้จะเลือกครีมกันแดดยี่ห้อไหนดี? ในปัจจุบัน มี 3 ประเภทหลักๆ คือกันแดดแบบ Chemical, Physical และ Hybrid ซึ่งต่างก็มีกระบวนการปกป้องผิวจากรังสียูวีที่แตกต่างกัน แต่จะเลือกกันแดดแบบไหนดี ก็ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์บนผิวที่ผู้ใช้ต้องการ

ทำไมต้องทากันแดด?

ครีมกันแดดเป็นตัวช่วยป้องกันผิวจากรังสียูวีในแสงแดด ที่อาจก่อให้เกิดอาการและโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังต่างๆ ซึ่งในครีมกันแดดบางยี่ห้อ ก็มีส่วนผสมที่สามารถช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ และรังสีอื่นๆ ได้อีกด้วย การทาครีมกันแดดทุกครั้งก่อนออกไปเผชิญแสงแดดจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ควรปรับให้เป็นนิสัย

แนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่ได้รับการรับรองจากองค์กรระดับโลกอย่าง Skin Cancer Foundation (SCF) มูลนิธิโรคมะเร็งผิวหนัง เพื่อรับรองว่าครีมกันแดดมีประสิทธิภาพช่วยป้องกันความเสียหายจากแสงแดดและรังสีอันตราย ซึ่งอาจนำไปสู่โรคมะเร็งผิวหนังได้ในที่สุด

วิธีเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิว

วิธีเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับสภาพผิวต้องดูที่ค่า SPF และส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ รวมถึงลักษณะการใช้งานที่เหมาะกับชีวิตประจำวัน เพื่อให้สามารถหยิบทาได้ทุกวันและปกป้องผิวจากแสงแดดได้เต็มประสิทธิภาพ

วิธีเลือกครีมกันแดดให้เหมาะกับผิว

วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง

แม้จะเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูง ป้องกันได้ทั้งรังสียูวี รังสีอินฟราเรด และแสงสีฟ้า แต่การทากันแดดที่ไม่ถูกวิธี ผิวอาจไม่ได้รับการปกป้องเต็มประสิทธิภาพ จึงควรทากันแดดในปริมาณที่เหมาะสมและทาซ้ำทุก 2 ชั่วโมง

  1. ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดประมาณ 15 - 30 นาที
  2. ใช้ครีมกันแดดประมาณ 1 กรัมสำหรับใบหน้า6 หรือ 2 ข้อนิ้วมือ หรือ 1 เหรียญสิบ
  3. แต้มกันแดดบนผิวหน้า 5 จุด ได้แก่ หน้าผาก แก้ม 2 ข้าง คาง จมูก และเกลี่ยเนื้อกันแดดจนซึมทั่วผิวหน้า
  4. ในกรณีที่มีเหงื่อออกมาก หรือผิวเปียก ควรทาครีมกันแดดซ้ำทันที
  5. เมื่อเจอแสงแดดติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรทาครีมกันแดดซ้ำทุก 2 ชั่วโมง
  6. หลีกเลี่ยงการออกแดดช่วง 10 โมงเช้า จนถึง 4 โมงเย็น เนื่องจากมีแสง UV แรงกว่าช่วงเวลาอื่น
วิธีทาครีมกันแดดที่ถูกต้อง

สรุป

แสงแดดจะมีรังสียูวีและรังสีอินฟราเรดที่คอยทำร้ายผิวหนัง เมื่อสัมผัสเป็นระยะเวลานาน จะส่งผลให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ ควรทาครีมกันแดดที่มีส่วนผสมช่วยปกป้องผิวจากความหมองคล้ำ ลดการทำร้ายจากแดดที่ทำให้ผิวไหม้ ลดการเกิดริ้วรอยก่อนวัย และลดโอกาสเกิดมะเร็งผิวหนัง พร้อมรักษาคอลลาเจนให้ผิวดูอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ การทาครีมกันแดดที่ถูกวิธีและเหมาะกับสภาพผิว ก็มีส่วนช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

FAQ – คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับครีมกันแดด

เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และระบุว่า Broad-Spectrum เพื่อปกป้องทั้ง UVA และ UVB รวมถึงควรเลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิวและกันน้ำได้สำหรับคนทำกิจกรรมกลางแจ้ง

ควรทาครีมกันแดดแม้อยู่ในบ้าน เพราะรังสี UV สามารถทะลุกระจกและหน้าต่างเข้ามาทำร้ายผิวได้ และยังช่วยลดความเสี่ยงปัญหาผิวแม้ไม่ได้ออกแดดโดยตรง

SPF 50 ปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ประมาณ 98% ส่วน SPF 50+ หมายถึงสามารถปกป้องได้มากกว่า 98% แต่ไม่ได้ระบุจำนวนที่แน่นอน โดยทั่วไปทั้งสองค่ามีประสิทธิภาพสูงและเหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง

ครีมกันแดด SPF 50 สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้นานประมาณ 8 ชั่วโมง แต่ควรทาซ้ำทุก 2 - 3 ชั่วโมงเพื่อคงประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเมื่อเหงื่อออกหรือโดนน้ำ เพราะประสิทธิภาพกันแดดจะลดลงตามเวลาหรือกิจกรรมระหว่างวัน

Reference

  1. Elisabeth G. Richard, MD. All About Sunscreen. Skincancer.org. Published 8 March 2019. Retrieved 21 February 2023.

  2. ภูริตา บุญล้อม. แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังชี้ จุดสำคัญที่คนมักจะลืมทากันแดดคือบริเวณเปลือกตา. Thestandard.co. Published 30 June 2022. Retrieved 3 March 2023.

  3. Stacy Simon. Choose the Right Sunscreen. Cancer.org. Published 11 June 2018. Retrieved 21 February 2023.

  4. Food and Drug Administration (FDA). ประกาศคณะกรรมการเครื่องสำอาง เรื่อง การแสดงค่าความสามารถในการป้องกันแสงแดดของเครื่องสำอางที่มีสารป้องกันแสงแดด พ.ศ. ๒๕๖๐. Thai government gazette 134/272 (10). Published 7 November 2017. Retrieved 23 March 2023.

  5. Ju Hee Lee, Mi Ryung Roh, and Kwang Hoon Lee. Effects of Infrared Radiation on Skin Photo-Aging and Pigmentation Yonsei Medicine Journal, 31 Aug 2006; 47(4): 485–490. Published Online 31 August 2006. Retrieved 23 March 2023.

  6. นายแพทย์รัฐภรณ์ อึ๊งภากรณ์. ครีมกันแดด เลือกให้เหมาะ ใช้ให้ถูก ปกป้องผิว. Bumrungrad.com. Published 28 May 2013. Retrieved 23 March 2023.

  7. Thaipbs. คุมเข้มแล้ว! ห้ามใช้ครีมกันแดดผสม 4 สารเคมี ห่วง "ปะการัง" พัง. Thaipbs.or.th. Published 4 August 2022. Retrieved 23 March 2023.Molly Adams, MD Anderson Cancer 

  8. Center, the University of Texas. Mineral or chemical sunscreen: Which should you choose?. Mdanderson.org. Published 30 June 2022. Retrieved 23 March 2023.

  9. พญ. พีรธิดา รัตตกุล. เจาะลึกสารกันแดด ยุค 4.0. samitivejhospitals.com. Published 10 April 2019. Retrieved 4 August 2025.

Chat with bot